Cover Photo นั้นเปรียบเสมือนหน้าตาของแบรนด์ที่สามารถสร้างความประทับใจแรกพบให้แก่ผู้พบเห็น วิธีการสร้าง Cover Photo นั้นถือเป็นเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้าม ดังนั้น 4 เคล็ดลับต่อจากนี้จะช่วยคุณสร้าง Cover Photo ให้ออกมาสวยงามและเหมาะสม
1.ให้ความสำคัญกับเรื่อง Dimensions
Facebook ถือเป็นที่แรกในการใช้งาน Cover Photo ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน Google+ และ Twitter ต่างก็หันมาใช้งานเช่นกัน ขนาดความกว้างแบนเนอร์ของ cover photo จะสามารถทำให้บริษัทของคุณแสดงตัวตนบนโลกออนไลน์ รวมถึงสะท้อนความเป็นแบรนด์ของตัวเอง
ทุกวันนี้คุณอาจเคยได้ยินหรือเลือกใช้ Repurposing Art โดยที่ไม่ทราบเลยว่าศิลปะนี้อาจส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ของแบรนด์ เมื่อเลือกทำภาพ Cover Photo แล้วสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงนั้นก็คือการทำภาพออกมาให้มีขนาดไม่พอดีกับพื้นที่แสดงภาพ ดังตัวอย่างด้านล่างนี้ คุณจะเห็นว่าตัวอักษรบางตัวถูกบัง ทำให้เห็นข้อความทั้งหมดไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นไปได้ว่าเจ้าของรูปภาพนั้นนำรูปภาพเดิมที่มีอยู่แล้วมาใช้งานและไม่ได้ทำการรีไซส์ขนาดรูปก่อน
ไม่ว่าคุณใช้แพลทฟอร์มไหนก็ตาม การทำไซส์หรือรีไซส์ภาพให้เหมาะสมกับพื้นที่ในการนำไปวางนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ หากคุณดีไซน์ออกมาให้มีขนาดพอดี เมื่อนำไปใช้งานแล้วมั่นใจได้เลยว่าทุกสิ่งบน Cover Photo ของคุณจะไม่ถูกบังหรือตัดออกไป
ดังนั้นขนาด Cover Photo ที่เหมาะสมของ Facebook ควรมีขนาดดังต่อไปนี้ 851 x 315 พิกเซล หรือไซส์ต่ำสุด 339 x 150 พิกเซล ส่วนถ้าเป็น Google+ ควรมีขนาด 1080 x 608 พิกเซล แต่ก็สามารถใช้ได้ถึงขนาด 2120 x 1192 พิกเซล โดยถ้าเป็นภาพที่เล็กที่สุดก็ควรเป็น 480 x 270 พิกเซล แต่สำหรับ Twitter คุณควรใช้เพียงไซส์เดียวนั้นคือ 1500 x 500 พิกเซล และ LinkedIn ควรเป็นไซส์ 1400 x 425 พิกเซล
2.ใส่ใจการเลือกใช้ Brand Colors
หากสีที่คุณเลือกใช้ใน Cover Photo นั้นไม่เข้ากับสีโลโก้ของเว็บไซต์ ผู้คนที่พบเห็นอาจรู้สึกว่าคุณไม่ใส่ใจการเลือกใช้สีในการนำเสนอโซเชียลมิเดียของคุณเลย
ยกตัวอย่างภาพข้างต้นนี้ สังเกตได้ว่า มีการเลือกใช้สีพื้นหลังและตัวอักษรในโลโก้เป็นโทนสีฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าของเพจได้ใส่ใจในการเลือกใช้สีให้เข้ากัน
Cover Photo และโลโก้ของคุณนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นรูปภาพที่ match หรือเข้ากัน แต่รูปภาพที่คุณเลือกใช้นั้นจำเป็นจะต้องใช้ Complementary color palette เพื่อที่เวลามองภาพดังกล่าวโดยรวมแล้วจะทำให้รู้สึกไม่ขัดตากัน
3.ขยันเปลี่ยนรูปภาพบ่อยครั้ง
การเปลี่ยนแปลงรูปภาพนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ ซึ่งการเปลี่ยนรูปภาพบ่อยๆนั้นจะช่วยคุณในการโปรโมทกิจกรรม โปรโมชั่น ในระยะเวลาดังกล่าวว่ามีอะไรแปลกใหม่และน่าสนใจบ้าง
ยกตัวอย่างภาพข้างต้นจาก Great Plains SPCA นี้ มีการเลือกใช้พื้นที่ Cover Photo เผยแพร่ข่าวสารแคมเปญระดมทุนช่วยเหลือสัตว์ โดยที่ออกแบบให้ข้อความบนภาพนั้นไม่ถูกภาพโปรไฟล์ทับ
4.หมั่นโฟกัสแฟนๆของคุณ
โซเชียลมิเดียนั้น หากมองโดยรวมแล้วมันก็คือ คอมมูนิตี้ หรือ สังคมออนไลน์ของคุณ โดยสังคมนี้ต่างก็ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นอาจเป็นกลุ่มที่สนใจในตัวแบรนด์ของคุณ
จะเห็นได้ว่ากลุ่มนั้นสนใจคุณได้จากการแชร์รูปภาพแบรนด์ลงในที่ต่างๆ ดังนั้นการนำภาพที่แฟนๆถ่ายไว้มาใช้ประกอบ Cover Photo ถือเป็นความคิดที่ดี อีกทั้งยังสามารถช่วยเชื่อมโยงกลุ่มลูกค้าและแบรนด์เข้าด้วยกัน
ยกตัวอย่าง เช่น ร้าน Taco Bell ได้นำรูปภาพที่เหล่าแฟนๆอัพโหลดลง Instagram มาประกอบรูปภาพ Cover Photo ซึ่งเมื่อเหล่าแฟนๆได้เห็นรูปภาพของตน เป็นที่แน่นอนว่า Taco Bell สามารถสร้างความประทับใจต่อแฟนๆได้มากเลยทีเดียว
คุณคงทราบแล้วว่า Cover Photo นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับโปรไฟล์โซเชียลมิเดีย เพราะเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าใช้งานเมื่อพบเห็น และยังช่วยสื่อความเป็นแบรนด์คุณได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นคุณต้องให้ความใส่ใจในการวัดขนาด การออกแบบ การเลือกภาพประกอบ Cover Photo อย่างละเอียดเหมาะสมกับแบรนด์ของคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ที่มา: http://www.socialmediaexaminer.com/create-perfect-cover-photo/
